สายผจญภัยห้ามพลาด กับ 8 ประเทศน่าเที่ยว ป่า ภูเขา ทะเล พร้อมให้ไปสัมผัส
การท่องเที่ยวแนวผจญภัยนั้นหาได้ในทุกซอกมุมของโลก ไม่ว่จะเป็นในป่า ภูเขา หรือทะเล ครั้งนี้เราขอเอาใจสายผจญภัยกันสักหน่อย กับสถานที่ท่องเที่ยวผจญภัยทางธรรมชาติจากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกที่นำจะเอามาแนะนำกัน แต่ละที่เรียกอะดรีนาลีนได้ตลอดการเดินทางแน่นอน !!!
คอสตาริกา
แม้ว่าคอสตาริกาจะมีพื้นที่เพียง 19,730 ตารางไมล์ แต่พื้นที่หนึ่งในสี่ของทั้งหมดล้วนปกคลุมด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์ กิจกรรมเดินป่าจึงเป็นหนึ่งในลิสต์อย่างไม่ต้องสงสัย หรือถ้าอยากได้อีกมุมมองก็ลองขึ้นบอลลูนชมวิวจากมุมสูง กิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าลองก็มีทั้ง พายเรือเล่นรอบทะเลสาบอาเรนัล (Lake Arenal) และล่องแก่งตามกระแสน้ำเชี่ยวของ Pacuare
โปรตุเกส
โปรตุเกสเป็นดินแดนที่เหล่านักสำรวจโปรดปรานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะอยู่บนแผ่นดินใหญ่หรือบนเกาะที่อยู่ห่างไกลไปอีก 850 ไมล์ ก็ล้วนเป็นสวรรค์สำหรับผู้หลงรักกิจกรรมกลางแจ้ง และหนึ่งในสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ คืออกไปเล่นเซิร์ฟที่ชายหาด Guincho หรือไปขี่ม้าเที่ยวชม Alentejo หนึ่งในภูมิภาคไวน์ที่กำลังโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ในระดับโลก
ไทย
ด้วยการท่องเที่ยวราคาประหยัด มีทั้งเมืองใหญ่ที่คึกคัก วัฒนธรรมอาหารริมทาง และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เลยทำให้ประเทศไทยของเราได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์สำหรับการพักร้อนยาว ๆ บรรดาเกาะกลางทะเลและภูเขาสูงก็เชิญชวนให้ไปผจญภัยทั้งนั้น ถ้าลงใต้ให้ลองไปพายเรือคายัคเล่นที่หมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล หรือถ้าขึ้นไปทางเหนือก็แนะนำให้เข้าไปชมถ้ำในปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ดูสักครั้ง
อิตาลี
อิตาลีมีที่เที่ยวตั้งแต่ยอดเขาสูงชัน เนินเขาที่เขียวชอุ่ม ไปจนถึงชายฝั่งที่สวยงาม ถ้าอยากได้การผจญภัยที่ไม่เหนื่อยมากก็ลองขับรถไปเยือนทัสคานี ดื่มด่ำกับภาพเนินเขาสีเขียวขจีและทุ่งหญ้าสีทอง แต่ถ้าอยากเพิ่มดีกรีความตื่นเต้นก็ต้องไปปีนเขา Dolomites ที่สวยงามไม่เป็นรองใคร
ไอซ์แลนด์
เป็นดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็งที่แท้จริง เพราะนักเดินทางผจญภัยสามารถเดินป่าที่ Snæfellsjökull ภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยหิมะ แช่น้ำพุร้อนที่ Golden Circle แล้วค่อยปีนขึ้นไปบนธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ถ้าอยากจะพิชิตทั้งน้ำแข็งและไฟก็ต้องใช้เวลายาวนานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว และแน่นอนว่ามาถึงไอซ์แลนด์แล้วก็ต้องแวะไปสำรวจถ้ำน้ำแข็งใต้ดินของธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลด้วย ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามาไม่ถึง
บอตสวานา
บอตสวานามีอุทยานแห่งชาติและแคมป์ซาฟารีมากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดหลักของประเทศคือสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ Okavango อันเขียวชอุ่มทางตอนเหนือของบอตสวานา ซึ่งเป็นบ้านของช้าง เสือชีตาห์ ม้าลาย ควาย และแรดจากนั้นไปตั้งแคมป์ใต้แสงดาวใกล้ ๆ กับเกาะ Kubu แล้วค่อยไปล่องเรือในแม่น้ำผ่านอุทยานแห่งชาติ Chobe เป็นการจบทริปอย่างครบรส
ศรีลังกา
หลังสงครามกลางเมืองสิ้นสุดไปกว่าทศวรรษ ศรีลังกาก็กลับมาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสุดโปรดของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนรักสัตว์ ที่จะได้พบกับเสือดาวจำนวนมากในอุทยานแห่งชาติยะลา ที่จะให้ประสบการณ์แบบซาฟารีที่คุ้มค่าแน่นอน
สเปน
ดูเหมือนว่าภูมิประเทศของสเปนเกิดขึ้นมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ เพราะนอกเหนือจากชายหาดระดับโลกแล้วยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติอีก 15 แห่ง ดังนั้นหากใครกำลังมองหาการเดินทางสุดเร้าใจ คำตอบก็ต้องเป็นที่สเปนนี่แหละ หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่อยากแนะนำคือ เส้นทางเดินเท้าไปสู่ Camino de Santiago หรือ เส้นทางนักบุญยากอบ ไปสู่อาสนวิหารเมืองซานเตียโกเดกอมโปสเตลา อีกหนึ่งกิจกรรมน่าลองคือ ตั้งแคมป์และดูดาวบนหมู่เกาะคานารี
ใครสายนี้ ต้องจัดทริปไปเที่ยวกันดูแล้วละ